แว่นตาโปรเกรสซีฟ

รีวิวประเภทเลนส์โปรเกรสซีฟยอดนิยม พร้อมข้อดี-ข้อเสีย

แว่นตาโปรเกรสซีฟ

แนะนำเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟประเภทต่างๆเพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม

ปัจจุบันเราจะพบว่าเลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lenses) หรือ ที่เรียกกันว่าเลนส์หลายระยะ นั้นเป็นนวัตกรรมด้านแว่นตาที่ช่วยแก้ปัญหาการมองเห็นในหลายระยะสำหรับผู้มีสายตายาวตามวัย (Presbyopia) ทำให้เลนส์ประเภทนี้จะช่วยให้ผู้สวมใส่มองเห็นได้ชัดทั้งระยะใกล้ ระยะกลาง และ ระยะไกล โดยไม่ต้องเปลี่ยนแว่นตาหลายๆคู่ จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในกลุ่มผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ดังนั้นในบทความนี้เราจะรีวิวประเภทเลนส์โปรเกรสซีฟที่ได้รับความนิยม พร้อมอธิบายข้อดี-ข้อเสียของแต่ละแบบ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาเลือกใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟ

ทำความรู้จักกับแว่นตาโปรเกรสซีฟคืออะไร?

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าเลนส์โปรเกรสซีฟเป็นเลนส์ที่ใช้กับแว่นตาโปรเกรสซีฟ โดยจะไม่มีเส้นแบ่งชัดเจนระหว่างระยะการมองต่างๆ โดยจะมีการเปลี่ยนค่ากำลังเลนส์อย่างต่อเนื่องจากบนลงล่าง ตั้งแต่ระยะไกล (ส่วนบนของเลนส์) ระยะกลาง (ตรงกลางเลนส์) และ ระยะใกล้ (ส่วนล่างของเลนส์) ซึ่งมีความแตกต่างจากเลนส์สองชั้น หรือ สามชั้นที่มีเส้นคั่นชัดเจน และ เปลี่ยนค่ากำลังแบบทันที

ประเภทเลนส์โปรเกรสซีฟยอดนิยมที่ใช้กับแว่นตาโปรเกรสซีฟ

  1. เลนส์โปรเกรสซีฟมาตรฐาน (Standard Progressive Lenses)
    โดยเลนส์โปรเกรสซีฟมาตรฐานนั้นจะมีลักษณะเด่นนื้ถูกออกแบบตามโครงสร้างมาตรฐาน ไม่มีการปรับเฉพาะบุคคลใดทำให้มีราคาค่อนข้างย่อมเยาจึงเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟ

    โดยข้อดีของเลนส์ประเภทนี้นั้นจะมีราคาประหยัดเมื่อเทียบกับเลนส์ระดับสูง และ ยังหาซื้อได้ง่ายจากร้านแว่นทั่วไป แต่ก็มีข้อเสียที่เลนส์ประเภทนี้จะมีมุมมองจำกัด โดยเฉพาะในระยะกลาง ซึ่งอาจเกิดภาพบิดเบี้ยวที่ขอบเลนส์มากกว่าประเภทอื่นๆ

  2. เลนส์โปรเกรสซีฟแบบปรับตามเฉพาะบุคคล (Customized Progressive Lenses)
    เลนส์โปรเกรสซีฟแบบปรับตามเฉพาะบุคคลนั้นมีลักษณะเด่นที่ถูกผลิตขึ้นตามสรีระ และ ตำแหน่งการสวมใส่ของแต่ละบุคคล เช่น ระยะห่างของตา ความโค้งของกรอบแว่น เพื่อให้สามารถสวมใส่ได้เหมาะสมเฉพาะบุคคลนั้นๆ ซึ่งมีข้อดีที่ให้มุมมองที่กว้าง และ ชัดเจนมากขึ้น และ ช่วยลดอาการเวียนศีรษะหรือ คลื่นไส้ในช่วงเริ่มใช้งานแว่นตาโปรเกรสซีฟ แต่ก็มีข้อเสียที่มีราคาสูงกว่าประเภทมาตรฐานโดยต้องใช้เครื่องมือวัด และ การฟิตติ้งที่แม่นยำนั้นเอง
  3. เลนส์โปรเกรสซีฟแบบอินดอร์ (Indoor Progressive Lenses)
    เลนส์ประเภทนี้นั้นจะมีลักษณะเด่นที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับการใช้งานในระยะใกล้ และ กลาง เช่น ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ อ่านหนังสือ ซึ่งจะมีข้อดีที่มีมุมมองใกล้ และ ระยะกลางกว้างเป็นพิเศษ ทำให้สบายตาเมื่อต้องใช้สายตาในระยะใกล้นานๆ แต่แว่นตาโปรเกรสซีฟประเภทนี้นั้นก็มีข้อเสียที่ไม่เหมาะสำหรับการขับรถ หรือ มองระยะไกล และ ต้องมีแว่นอีกคู่สำหรับใช้นอกอาคารอีกด้วย
  4. เลนส์โปรเกรสซีฟสำหรับกิจกรรมเฉพาะ (Task-specific Progressive Lenses)
    เลนส์โปรเกรสซีฟสำหรับกิจกรรมเฉพาะนั้นจะมีลักษณะเด่นที่ถูกพัฒนาเพื่อรองรับกิจกรรมเฉพาะ เช่น เล่นกีฬา ทำงานฝีมือ หรือ ขับรถ โดยจะมีข้อดีที่เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานเฉพาะทาง

    อีกทั้งยังสามารถปรับตำแหน่ง และ ระยะโฟกัสได้ตรงตามพฤติกรรมการใช้งาน แต่ก็มีข้อเสียที่แว่นตาโปรเกรสซีฟแบบนี้นั้นจะใช้ได้จำกัดกับบางกิจกรรมเท่านั้น อีกทั้งยังมีราคาสูง และ ต้องมีแว่นหลายๆคู่สำหรับแต่ละกิจกรรม อีกด้วย

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกแว่นตาโปรเกรสซีฟ

  1. อายุ และ ค่าสายตา
    ในการเลือกแว่นตาโปรเกรสซีฟนั้นปัจจัยหลักๆเลยคือเรื่องอายุ และ ค่าสายตาของผู้สวมใส่โดยยิ่งมีอายุมาก ความต้องการกำลังเลนส์ที่ต่างกันในแต่ละระยะก็จะชัดเจนยิ่งขึ้น
  2. กิจวัตรประจำวัน 
    หากผู้ใช้มีกิจวัตรประจำวันในการใช้คอมพิวเตอร์ หรือ อ่านหนังสือมาก อาจต้องเลือกแว่นตาโปรเกรสซีฟที่มีเลนส์ที่เน้นระยะกลาง-ใกล้เป็นหลักนั้นเอง
  3. งบประมาณ
    เราจะพบว่าเลนส์โปรเกรสซีฟนั้นมีหลายระดับราคา ซึ่งเราควรเลือกแว่นตาโปรเกรสซีฟให้เหมาะกับงบประมาณ และ ความคุ้มค่าในระยะยาวของผู้ใช้งานด้วย
  4. กรอบแว่น
    ในการเลือกใช้งานแว่นตาโปรเกรสซีฟ ควรเลือกกรอบแว่นให้เหมาะสมเนื่องจาก กรอบแว่นบางแบบไม่เหมาะกับเลนส์โปรเกรสซีฟ เช่น กรอบเล็ก หรือ แฟชั่นพิเศษมากเกินไป เป็นต้น
  5. ความสามารถในการปรับตัวของผู้ใส่
    โดยผู้เริ่มใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟในระยะเริ่มต้นนั้นอาจรู้สึกเวียนศีรษะ หรือ ไม่สบายตาในช่วงแรกๆ ซึ่งเราควรเลือกเลนส์ที่มีการออกแบบเพื่อช่วยให้ปรับตัวได้ง่ายขึ้นด้วย

จากที่กล่าวมาจะเห็นว่าเลนส์โปรเกรสซีฟเป็นทางเลือกที่สะดวก และ ทันสมัยสำหรับผู้ที่ต้องการความชัดเจนในหลายระยะโดยไม่ต้องพกแว่นหลายๆคู่ ซึ่งในปัจจุบันได้มีแว่นตาโปรเกรสซีฟหลายประเภทให้เลือก ทั้งแบบมาตรฐาน อินดอร์ หรือ แบบปรับตามพฤติกรรม ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป โดยการเลือกเลนส์ที่เหมาะสมจึงควรพิจารณาจากพฤติกรรมการใช้งาน งบประมาณ และความต้องการเฉพาะบุคคล เพื่อให้ได้แว่นตาโปรเกรสซีฟที่ตอบโจทย์ที่สุด และ ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าในระยะยาว ดังนั้นหากสนใจในการตัดแว่นตาโปรเกรสซีฟเราขอแนะนำ ร้านแว่น Taalook Optic เราเป็นร้านตัดแว่นตาเชียงใหม่ ศูนย์ตรวจสายตา และ รับตัดแว่นตาโปรเกรสซีฟที่ใช้เครื่องมือทางการแพทย์ของ Carl Zeiss ที่ครบทุกเครื่องแห่งเดียวในภาคเหนือ เรายังมีเครื่องมือที่ทันสมัยระดับ Hi-End ZEISS i.Profiler เครื่องวัดสายตาที่สามารถสั่งผลิตเลนส์แว่นตาที่ละเอียดที่สุดในโลกถึง 0.01 ไดออปเตอร์ นอกจากนี้ยังมี ZEISS Slit Lamp เครื่องคัดกรองโรคตาส่วนหน้า เช่น ต้อเนื้อ ต้อกระจก (เผื่อส่งต่อโรงพยาบาล) และ ZEISS VISUFIT 1000 เครื่องตรวจเซ็นเตอร์ตา 3D ที่ช่วยวิเคราะห์หาจุดเซ็นเตอร์ตาเพื่อการประกอบแว่นตาที่แม่นยำอีกด้วยสำหรับใครที่กำลังมองหา ร้านแว่นตาเชียงใหม่ ราคาถูก แต่คุณภาพเหนือระดับ ที่นี่คือคำตอบ

ด้วยประสบการณ์การให้บริการมาหลายปี และ รีวิวจริงจากลูกค้าหลายกลุ่ม เราจึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมในการ ตัดแว่น เชียงใหม่นั้นเอง

Similar Posts